440px-WORLD_ECONOMIC_FORUM_ANNUAL_MEETING_2009_-_Tony_Blair
ภาพจาก Wikipedia

ฟัง speech ของนายโทนี่ แบลร์ว่าด้วยเรื่องการต่อต้าน “มุสลิมหัวรุนแรง” แล้วหมั่นไส้ค่ะ แต่ก็สมน้ำหน้านะคะ นักวิจารณ์ออกมาถล่มกันทั้งโลกบอกว่าโทนี่ แบลร์ไม่มีเครดิตเหลือแล้วที่จะออกมาแหกปา… เอ๊ย “กล่าวสุนทรพจน์” เรื่องการต่อต้าน “มุสลิมหัวรุนแรง” เพราะสิ่งที่ตัวเองกับ จอร์จ บุชคู่หูทำไว้ที่อิรักและนโยบายของอังกฤษและอเมริกาในตะวันออกกลางทำให้คนทั่วโลกต่างก็รู้ไส้รู้พุงถึงความหน้าไหว้หลังหลอกของรัฐบาลประเทศเหล่านี้หมดแล้ว อ่านที่คอลัมนิสต์ใน The Guardian เขียนแล้วสนุกดีอยากเอามาแบ่งปันให้สนุกกันค่ะ สรุปส่วนที่ชอบมาให้ก่อนประมาณนี้ค่ะ

นายคริส ดอยล์ (Chris Doyle) ผู้อำนวยการ Council for Arab-British Understanding กล่าวว่าแนวคิดของแบลร์ที่กล่าวว่าชาวตะวันออกกลางต้องเลือกระหว่างรัฐเผด็จการกับมุสลิมหัวรุนแรงนั้นเป็นแนวคิดที่มีปัญหาเพราะทั้งสองอย่าง ไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง นายดอยล์กล่าวว่าก่อนอเมริกาและอังกฤษจะบุกอิรักไม่เคยมีปัญหาเรื่องกลุ่มอัลกออิดะห์ในอิรัก การแทรกแซงทางทหารนั่นแหละที่ทำให้เกิดการต่อต้านด้วยการใช้กำลังของประชาชนในพื้นที่และเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับกองกำลังที่นิยมความรุนแรงทั้งหลายที่แห่กันเข้าไปช่วยประชาชนชาวอิรัก

นายอับเดล บารี อัตวัน (Abdel Bari Atwan) บรรณาธิการข่าวออนไลน์ชาวปาเลสไตน์ยังชี้ชัดให้เห็นถึงความหน้าไหว้หลังหลอกของแบลร์ด้วยว่า การที่แบลร์สนับสนุนรัฐบาลทหารของนายพลอาซีซีให้ก่อรัฐประหารล้มล้างอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งนั้นก็เพราะว่านายพลอาซีซีเป็นเพื่อนรักของแบลร์นั่นเอง (โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรงมาบังหน้า)

นายญิฮาด อัลคาเซ็น (Jihad al-Khazen) คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ของซาอุดิอารเบีย กล่าวว่าทั้งแบลร์และบุชต่างก็ต้องรับผิดชอบต่อการเกิดขึ้นของกลุ่มใช้ความรุนแรงพอ ๆ กับผู้นำคนอื่น ๆ ที่เปิดโอกาสให้การใช้ความรุนแรงกลายเป็นความชอบธรรม เขายังกล่าวอีกว่าแบลร์คงไม่อาจล้างบาปที่ตนเคยก่อไว้ (ในกรณีอิรัก) ได้ และในขณะที่แบลร์ออกมาบรรยายเรื่องตะวันออกกลางเขากลับไม่ปริปากใด ๆ กรณีการยึดครองปาเลสไตน์ของอิสราเอล แบลร์ไม่มีเครคิตอะไรเหลือให้พูดเรื่องนี้และการที่แบลร์เป็นฑูตสันติภาพ นั้นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งในตัวเองโดยสิ้นเชิง

แม้แต่คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์อิสราเอล นาย Anshel Pfeffer ยังทวีตข้อความว่า สิ่งที่น่าทึ่งมาก ๆ ในสุนทรพจน์ของแบลร์ก็คือสุนทรพจน์ดังกล่าวเหมือนออกมาจากปากของนายเนธันยาฮูคำต่อคำเลยทีเดียว เพราะว่าทั้งสองต่างก็มีมุงมองแบบเดียวกัน

http://www.theguardian.com/politics/2014/apr/23/blair-speech-islamic-extremism-strong-reactions

นาย Arun Kundnani นักวิชาการและนักเขียนชื่อดัง เขียนบทความเรื่อง “ความหน้าไว้หลังหลอกของโทนี่ แบลร์ในมุมมองเรื่องตะวันออกกลาง” ไว้สนุกไม่แพ้กัน อรุณ คุนด์นานีกล่าวว่าสุนทรพจน์ของแบลร์แสดงให้เห็นว่าเขากำลังให้การสนับสนุนผู้นำเผด็จการในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน

ชอบย่อหน้านี้

Last summer’s military coup in Egypt that overthrew a democratically elected government is described by Blair as “absolutely necessary”. Thousands of peaceful protesters have since been imprisoned by the regime, including many prominent journalists and intellectuals. Meanwhile, officially sanctioned pop songs pay tribute to army chief Abdul-Fattah el-Sisi, and his face beams from posters. Blair says he disagrees with the death sentence on 500 opponents of the regime, but asks us to show “sensitivity” in our criticisms. The Egyptian generals get his support for the simple reason that they have declared war on Islamism. To him, nothing else really matters.

และย่อหน้านี้

While Blair’s speech lays out recommendations for Tunisia, Libya, Yemen, Iran, and Palestine, one country is not even mentioned by name: Saudi Arabia – surely the natural starting point for any genuine campaign against the use of religion for reactionary politics. And the ruling family’s record of domestic repression is unsurpassed. Yet the Saudi regime gets a free pass from Blair. The Saudi “Islamists”, it seems, are to be embraced if they buy our weapons and keep the oil flowing. This is the return of the old foreign policy formula that neoconservatives criticised after 9/11: stability first, democracy can wait.

ตราบใดที่รัฐบาลซาอุฯยังซื้ออาวุธจากเราและยังเปิดโอกาสให้เราดูดน้ำมันมาใช้ได้ก็ถือว่าผ่าน ได้รับการยกเว้นจากบัญชีดำเรื่อง “มุสลิมหัวรุนแรง” นะจ๊ะ ความมั่นคงทางพลังงานของเราย่อมมาก่อน ประชาธิปไตยหนะเหรอ พูดกันทีหลังด้ายยยย อ่านต่อได้ในนี้ค่ะ สนุกมาก http://www.kundnani.org/2014/04/24/the-hypocrisy-of-tony-blairs-middle-east-vision/