Search

Reflections upon Life

By Suraiya ฺB. Sulaiman

Month

December 2023

คุณรู้หรือไม่? มุสลิมคือผู้ถือกุญแจของโบสต์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิในเยรูซาเล็ม

คุณรู้หรือไม่ว่าครอบครัวมุสลิมในกรุงเยรูซาเล็มเป็นผู้ถือกุญแจโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ หรือ Church of the Holy Sepulchre ซึ่งเป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิที่สุดของคริสเตียนทั่วโลก

ตามความเชื่อของคริสเตียนทุกนิกายโบสถ์แห่งนี้คือโบสถ์ที่ฝังพระศพและเป็นสถานที่ฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1187 เมื่อกรุงเยรูซาเล็มตกอยู่ภายใต้การปกครองของท่านซอลาฮุดดีน หรือที่ชาวตะวันตกเรียกว่า ซาลาดิน นั้นท่านได้มอบหมายให้ครอบครัวมุสลิมเป็นผู้ดูแลกุญแจประตูโบสถ์แห่งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและก่อให้เกิดความเป็น

กลางระหว่างชาวคริสต์นิกายต่าง ๆ ที่ล้วนมาแสวงบุญ ณ โบสถ์แห่งนี้

ดังน้ันตลอดระยะเวลา 850 ปีที่ผ่านมาครอบครัวมุสลิม 2 ครอบครัวได้ปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อย่างเคร่งครัดตลอดมา และถือเป็นมรดกตกทอดที่เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว โดยคนที่ถือกุญแจในปัจจุบันคือ Adeeb Joudeh ซึ่งได้รับหน้าที่นี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา Joudeh กล่าวว่าการรับหน้าที่นี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของเขาเท่าน้ัน แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นการถึงการที่มุสลิมให้ความเคารพในความเชื่อของต่างศาสนิกอีกด้วย ส่วนอีกครอบครัวได้ทำหน้าที่เปิดปิดประตูโบสถ์คือครอบครัว Nusseibeh ซึ่งปัจจุบันคนทำหน้าที่นี้คือ Wajeeh Nuseibeh โดยเขาจะมาถึงโบสถ์ในตอนเช้า รับกุญแจขนาดความยาว 12 นิ้ว น้ำหนัก 250 กรัม จาก Joudeh จากขึ้นเขาจะเดินขึ้นบรรไดไม้เล็ก ๆ ไปเปิดประตูโบสถ์ และในช่วงเย็นเขาก็จะมาทำหน้าที่ปิดประตูโบสถ์อีกครั้ง

มุสลิมทั้งสองตระกูลนี้ได้ทำหน้าที่ดูแลปกป้องศาสนสถานที่สำคัญของพี่น้องคริสเตียนมาเป็นเวลาเกือบศตวรรษแล้ว และเขาต่างเป็นประจักษ์พยานให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างชาวคัมภีร์ หรือ The People of the Books ดังนี้อัลกุรอานได้ระบุไว้

เรื่องราวของทั้งสองครอบครัวนี้คงจะไม่สมบูรณ์หากเราไม่ได้มองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาในประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 1,400 ปีก่อน ในตอนที่กรุงเยรูซาเล็มได้ตกไปอยู่ใต้การปกครองของมุสลิม ตอนที่ท่านคอลีฟะห์อุมัร อิบนิ ค็อตต็อบ ได้เดินทางไปรับมอบประตูเมืองเยรูซาเล็ม เมื่อท่านเดินทางไปถึงโบสถ์แห่งนี้มีผู้จัดสถานที่ให้ท่านได้ละหมาดภายในโบสถ์ แต่ท่านอุมัรปฏิเสธและได้เลี่ยงไปละหมาดที่บริเวณด้านนอกของโบสถ์ โดยท่านกล่าวว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มุสลิมรุ่นหลังเข้าใจผิดว่าจะสามารถเปลี่ยนโบสถ์เป็นมัสยิดได้

เรื่องราวเหล่านี้คงช่วยบอกเราได้อีกครั้งว่าเยรูซาเล็มและดินแดนปาเลสไตน์เป็นดินแดนที่ศาสนิกชนทั้งสามศาสนาอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติเป็นเวลานับพันปี ก่อนที่นักล่าอาณานิคมตะวันตกจะบิดเบือนคำสอนในคัมภีร์เตารอตเพื่อนำไปจัดตั้งลัทธิไซ ออ นิส ต์ ลัทธิเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติที่เข้ามาบ่อนทำลายความสงบสุขและยึดครองดินแดนอันศักดิ์สิทธิแห่งนี้ไปครอบครองเพื่อสนองผลประโยชน์ของตนเองและมหาอำนาจที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างออกหน้าออกตา

ครอบครัวมุสลิมผู้ถือกุญแจประตูโบสถ์แห่งวิหารศักดิ์สิทธิ

พิธีเปิดประตูโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ

วิดีโออนิเมชันประกอบ https://fb.watch/oJ2ojNXBzY/

เรื่องและภาพจาก:

Reuters https://www.reuters.com/…/us-religion-jerusalem-church…/

CNN https://edition.cnn.com/…/easter-muslim…/index.html

BBC https://www.bbc.com/news/av/world-middle-east-39804743

Wikipedia https://en.wikipedia.org/wiki/Church_of_the_Holy_Sepulchre

ชมภาพเพิ่มเติม https://th.trip.com/…/church-of-the-holy-sepulchre-90071

การสังหารหมู่ที่ตันตูรา: เมื่ออิสราเอลเปลี่ยนหลุมฝังศพขนาดมหึมาให้กลายเป็นลานจอดรถริมทะเล

ในขณะที่รัฐบาลอิสราเอลออกมาปฏิเสธตาใสหน้าซื่อตลอดเวลาว่าไม่เคยพุ่งเป้าสังหารประชาชนชาวปาเลสไตน์ ทุกอย่างทำไปเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น ประวัติการกำเนิดขึ้นของรัฐอิสราเอลและเหตุการณ์ตลอด 75 ปีที่ผ่านมาของการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของรัฐอิสราเอลกลับให้คำตอบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

เบนนี มอรริส (Benny Morris) ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ชาวอิสราเอล กล่าวว่าในช่วงของการสถาปนารัฐอิสราเอล ในปี ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) ได้เกิดเหตุการณ์การสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์โดยกองทัพของอิสราเอลอย่างน้อย 28 ครั้งด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการสังหารหมู่ที่ตันตูรา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองไฮฟา เรื่องราวการสังหารหมู่ที่นี่แม้จะเป็นที่จดจำและมีการระลึกถึงเหตุการณ์โดยชาวปาเลสไตน์ผู้เป็นทายาทของชาวตันตูราทุกปี แต่เพิ่งได้กลายเป็นที่รับรู้ของผู้คนจำนวนมากจากสารคดีเรื่องการสังหารหมู่ที่ตันตูรา (Tantura Massacre) ซึ่งสร้างโดยอาลอน ชวาร์ซ (Alon Schwarz) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิสราเอล และได้นำออกฉายใน ปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่ผ่านมา

เมื่อประมาณ 24 ปีก่อนหน้านั้น คือในปี ค.ศ. 1998 เท็ดดี แคทซ์ (Teddy Katz) นักวิจัยชาวอิสราเอล ได้เขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท โดยอ้างอิงหลักฐานจากเทปบันทึกการสัมภาษณ์พยานสำคัญในเหตุการณ์ครั้งนั้นรวม 135 คน ซึ่งมีทั้งอดีตทหารอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทหารอิสราเอลต่างยอมรับว่าได้ก่อเหตุสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ที่ตันตูราจริง แต่ชมรมทหารผ่านศึกของกองพลอเล็กซานโตรนีก็ได้ฟ้องแคทซ์ในข้อหาหมิ่นประมาทหลังจากที่แคทซ์เผยแพร่บทความจากวิทยานิพนธ์ของเขาในปี ค.ศ.2000 อย่างไรก็ตาม หลังจาก การเผยแพร่สารคดีของผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอิสราเอลเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่ตันตูรา ในปี ค.ศ. 2022 โดยมีทหารผ่านศึกของอิสราเอลหลายคนตกลงใจให้บันทึกวิดีโอการสัมภาษณ์เกี่ยวกับการสังหารหมู่ครั้งนี้ ทำให้เกิดกระแสรับรู้เรื่องนี้อย่างกว้างขวางอีกครั้ง

ในบทสัมภาษณ์นี้ ฮาลา เกเบรียล (Hala Gabriel) นักสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์เล่าถึงการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ที่หมู่บ้านตันตูรา แผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษของเธอ เมื่อปี ค.ศ. 1948 ว่า

เมื่อ 75 ปีก่อน ครอบครัวของฉันต้องลี้ภัยออกมาจากหมู่บ้านตันตูรา หมู่บ้านริมทะเลเมดิเตอเรเนียนที่งดงามซึ่งตั้งอยู่ด้านใต้ของเมืองไฮฟา คืนนั้นทุกคนในบ้านเข้านอนกันตามปกติ พอตกดึกเสียงปืนก็ดังขึ้น และรุ่งเช้าก็พบว่าทั้งหมู่บ้านถูกโจมตี ตั้งแต่เย็นวันนั้นจนถึงรุ่งเช้ามีการสังหารหมู่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนั้น ทหารอิสราเอลได้สังหารคนจำนวนหลายร้อยคนรวมทั้งญาติห่าง ๆ ของฉันหลายคน คุณลุงของฉันชื่ออัดนานก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ท่านถูกทหารเอาปืนขู่ให้รวบรวมศพของคนตายโยนลงไปในหลุมขนาดใหญ่ หนึ่งในร่างที่ท่านต้องจับโยนลงไปในหลุมคือพ่อของเพื่อนท่านที่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังไม่ตาย คุณลุงไม่มีทางเลือกจึงจำต้องโยนร่างนั้นลงไปในหลุมศพเพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้นจุดจบของท่านก็ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ

คนจำนวนมากในหมู่บ้านมาหลบภัยกันอยู่ที่บ้านฉันเพราะคุณปู่ของฉันเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านและเป็นเจ้าของที่จำนวนมากในหมู่บ้านตันตูรา ส่วนญาติของฉันเป็นนายกเทศมนตรีของเมือง ชาวบ้านมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากคุณปู่และคิดว่าท่านจะช่วยพวกเขาได้ แต่คุณปู่ก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรในมือ ชาวบ้านทั้งหมดทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ต่างถูกนำตัวไปที่ชายหาดและจับแยกออกจากกัน คุณย่า คุณป้า และคุณอาซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 3 ขวบ ถูกบังคับให้เดินเท้าไปที่หมู่บ้านข้างเคียง หลังจากนั้นทุกคนก็ถูกส่งไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยในซีเรีย คุณพ่อ คุณลุง และคุณปู่ของฉันถูกนำตัวไปที่ค่ายกักกันผู้ใช้แรงงาน พ่อของฉันต้องทำงานอยู่ที่นั่นเกือบ 2 ปี ในค่ายไม่มีใครได้รับอนุญาตให้อาบน้ำ คุณพ่อเล่าว่ามีแมลงต่าง ๆ ขึ้นตามตัวท่านเต็มไปหมด ตอนที่ท่านถูกปล่อยตัวออกมาทางอิสราเอลก็นำท่านไปทิ้งไว้ที่ประเทศจอร์แดน สภาพของท่านไม่ต่างจากคนไร้บ้าน ชุดที่สวมก็เป็นชุดนักโทษ น้ำก็ไม่เคยได้อาบ ผมเผ้าหนวดเครารุงรัง โชคดีที่ท่านพบกับคนขับรถแท็กซี่คนหนึ่งซึ่งจำท่านได้เพราะเขาก็ลี้ภัยมาจากหมู่บ้านตันตูราเหมือนกัน เขาให้เงินพ่อฉันเล็กน้อยแต่ก็พอที่จะเดินทางต่อไปยังซีเรียได้

หลุมฝังศพขนาดใหญ่ที่ลุงฉันต้องเอาศพโยนลงไปนั้นได้ถูกฝังกลบและขณะนี้ได้กลายเป็นลานจอดรถไปแล้ว ตอนนี้อิสราเอลได้เปลี่ยนหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เวลาคุณเดินทางมาที่ชายหาดแห่งนี้ก่อนจะเดินลงไปที่ทะเล คุณก็จะจอดรถอยู่เหนือหลุมฝังศพขนาดมหึมาแห่งนั้น และจากเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนี้ทำให้ฉันไปเกิดและเติบโตในค่ายผู้ลี้ภัยที่ซีเรีย ฉันเป็นคนรุ่นแรกของตระกูลที่ไม่ได้เกิดและเติบโตที่ตันตูรา ฉันเติบโตในค่ายผู้ลี้ภัยในซีเรียในฐานะคนไร้สัญชาติ จนอายุ 12 ปีครอบครัวฉันก็ได้อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จนทุกวันนี้คนในครอบครัวฉันยังไม่มีโอกาสกลับไปยังแผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษที่ตันตูราอีกเลย ถึงแม้ว่าทั้งคุณทวด คุณปู่ และคุณพ่อของฉันต่างก็เกิดและเติบโตในตันตูรา แต่พวกเขาไม่มีสิทธิได้กลับไปยังบ้านเกิดของตนเองแม้ว่าพวกเขาจะถือกรรมสิทธิในที่ดินแห่งนั้นก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้มีภาพยนตร์ที่ผลิตโดยคนอิสราเอลเอง ในภาพยนตร์ดังกล่าวทหารอิสราเอลต่างออกมายอมรับว่าตนเองเป็นคนสังหารหมู่ที่หมู่บ้านตันตูรา และถึงแม้จะมีข้อมูลเหล่านี้ออกมา เราก็ไม่มีสิทธิทางกฎหมาย ไม่ได้รับค่าชดเชยในสิ่งที่เราสูญเสียไปและไม่มีสิทธิในการกลับไปยังแผ่นดินเกิดของเรา แต่ฉันบอกได้เลยว่าความปรารถนาของพวกเราที่จะกลับไปยังแผ่นดินเกิดไม่มีวันหายไป และสักวันเราจะต้องกลับไปปาเลสไตน์ให้ได้อย่างแน่นอน

แปลและเรียบเรียงโดย สุรัยยา สุไลมาน

๓ ธันวาคม ๒๕๖๖

รายการอ้างอิง

บทสัมภาษณ์ Hala Gabriel https://www.facebook.com/MiddleEastEye/posts/pfbid073q4gyP9AtSEYvEs2ZLnpAJ1xEfRNxyvkKnthePt4QRZ7A65HtcUTDXi9KuuE8tvl

การกลบเกลื่อนและบิดเบือนประวัติศาสตร์ของชาวปาเลสไตน์อย่างเป็นระบบในสังคมอิสราเอล https://www.facebook.com/MiddleEastEye/posts/pfbid0MQfZxWzSvCcVeMtjgLK361VAzAarMgZS4dGQsh3GzNG83V9jRbMfMkdPRDPDyYQpl

สารคดีเรื่อง Executions and Mass Graves in Tantura https://www.youtube.com/watch?v=rteB5T4hwVY

บทความเรื่อง UK study of 1948 Israeli massacre of Palestinian village reveals mass grave sites จากนสพ. The Guardian: https://www.theguardian.com/…/study-1948-israeli…

บทความเรื่อง The Tantura Massacre, 22-23 May https://www.palestine-studies.org/en/node/41048

ตัวอย่างบทสัมภาษณ์อดีตทหารอิสราเอลในสารคดีเรื่อง การสังหารหมู่ที่ตันตูรา https://www.facebook.com/pesall.surat/videos/1968877886819922

สารคดีฉบับเต็มเรื่องการสังหารหมู่ที่ตันตูรา Tantura Massacre https://www.youtube.com/watch?v=KaiYM8_uBbE

Blog at WordPress.com.

Up ↑