คุณรู้หรือไม่ว่าครอบครัวมุสลิมในกรุงเยรูซาเล็มเป็นผู้ถือกุญแจโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ หรือ Church of the Holy Sepulchre ซึ่งเป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิที่สุดของคริสเตียนทั่วโลก

ตามความเชื่อของคริสเตียนทุกนิกายโบสถ์แห่งนี้คือโบสถ์ที่ฝังพระศพและเป็นสถานที่ฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1187 เมื่อกรุงเยรูซาเล็มตกอยู่ภายใต้การปกครองของท่านซอลาฮุดดีน หรือที่ชาวตะวันตกเรียกว่า ซาลาดิน นั้นท่านได้มอบหมายให้ครอบครัวมุสลิมเป็นผู้ดูแลกุญแจประตูโบสถ์แห่งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและก่อให้เกิดความเป็น

กลางระหว่างชาวคริสต์นิกายต่าง ๆ ที่ล้วนมาแสวงบุญ ณ โบสถ์แห่งนี้

ดังน้ันตลอดระยะเวลา 850 ปีที่ผ่านมาครอบครัวมุสลิม 2 ครอบครัวได้ปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อย่างเคร่งครัดตลอดมา และถือเป็นมรดกตกทอดที่เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว โดยคนที่ถือกุญแจในปัจจุบันคือ Adeeb Joudeh ซึ่งได้รับหน้าที่นี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา Joudeh กล่าวว่าการรับหน้าที่นี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของเขาเท่าน้ัน แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นการถึงการที่มุสลิมให้ความเคารพในความเชื่อของต่างศาสนิกอีกด้วย ส่วนอีกครอบครัวได้ทำหน้าที่เปิดปิดประตูโบสถ์คือครอบครัว Nusseibeh ซึ่งปัจจุบันคนทำหน้าที่นี้คือ Wajeeh Nuseibeh โดยเขาจะมาถึงโบสถ์ในตอนเช้า รับกุญแจขนาดความยาว 12 นิ้ว น้ำหนัก 250 กรัม จาก Joudeh จากขึ้นเขาจะเดินขึ้นบรรไดไม้เล็ก ๆ ไปเปิดประตูโบสถ์ และในช่วงเย็นเขาก็จะมาทำหน้าที่ปิดประตูโบสถ์อีกครั้ง

มุสลิมทั้งสองตระกูลนี้ได้ทำหน้าที่ดูแลปกป้องศาสนสถานที่สำคัญของพี่น้องคริสเตียนมาเป็นเวลาเกือบศตวรรษแล้ว และเขาต่างเป็นประจักษ์พยานให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างชาวคัมภีร์ หรือ The People of the Books ดังนี้อัลกุรอานได้ระบุไว้

เรื่องราวของทั้งสองครอบครัวนี้คงจะไม่สมบูรณ์หากเราไม่ได้มองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาในประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 1,400 ปีก่อน ในตอนที่กรุงเยรูซาเล็มได้ตกไปอยู่ใต้การปกครองของมุสลิม ตอนที่ท่านคอลีฟะห์อุมัร อิบนิ ค็อตต็อบ ได้เดินทางไปรับมอบประตูเมืองเยรูซาเล็ม เมื่อท่านเดินทางไปถึงโบสถ์แห่งนี้มีผู้จัดสถานที่ให้ท่านได้ละหมาดภายในโบสถ์ แต่ท่านอุมัรปฏิเสธและได้เลี่ยงไปละหมาดที่บริเวณด้านนอกของโบสถ์ โดยท่านกล่าวว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มุสลิมรุ่นหลังเข้าใจผิดว่าจะสามารถเปลี่ยนโบสถ์เป็นมัสยิดได้

เรื่องราวเหล่านี้คงช่วยบอกเราได้อีกครั้งว่าเยรูซาเล็มและดินแดนปาเลสไตน์เป็นดินแดนที่ศาสนิกชนทั้งสามศาสนาอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติเป็นเวลานับพันปี ก่อนที่นักล่าอาณานิคมตะวันตกจะบิดเบือนคำสอนในคัมภีร์เตารอตเพื่อนำไปจัดตั้งลัทธิไซ ออ นิส ต์ ลัทธิเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติที่เข้ามาบ่อนทำลายความสงบสุขและยึดครองดินแดนอันศักดิ์สิทธิแห่งนี้ไปครอบครองเพื่อสนองผลประโยชน์ของตนเองและมหาอำนาจที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างออกหน้าออกตา

ครอบครัวมุสลิมผู้ถือกุญแจประตูโบสถ์แห่งวิหารศักดิ์สิทธิ

พิธีเปิดประตูโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ

วิดีโออนิเมชันประกอบ https://fb.watch/oJ2ojNXBzY/

เรื่องและภาพจาก:

Reuters https://www.reuters.com/…/us-religion-jerusalem-church…/

CNN https://edition.cnn.com/…/easter-muslim…/index.html

BBC https://www.bbc.com/news/av/world-middle-east-39804743

Wikipedia https://en.wikipedia.org/wiki/Church_of_the_Holy_Sepulchre

ชมภาพเพิ่มเติม https://th.trip.com/…/church-of-the-holy-sepulchre-90071